วันอาทิตย์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2552

MY FAVOURITE STUFF:"RABBIT"

หัวข้อนี้ก็ชื่อ FAVOURITE STUFF อ่ะนะ ตอนแรกก็นึกไม่ค่อยออกว่าจะทำเรื่องอะไร แต่อยู่ดีๆก็นึกถึงกระต่ายที่เคยเลี้ยงขึ้นมา อืม งั้นก็เอาเรื่องนี้ล่ะ มาดูกันเร็ว

กระต่ายเป็นสัตว์ที่ฉลาด ขี้เล่น ซน บางครั้งดื้อ รวมแล้วทำให้กระต่ายเป็นสัตว์ที่มีเสน่ห์น่ารัก และได้รับความนิยมป็นอันดับต้นๆ กระต่ายที่นิยมเลี้ยงมีหลายชนิด แต่ที่นิยมเลี้ยงในประเทศไทย มีดังนี้

1. พันธุ์นิวซีแลนด์ไวท์ ( Newzealand White ) มีสีขาวทั้งตัว หน้าสั้น ตาสีแดง ลูกดก เลี้ยงลูกเก่ง ตัวโตเต็มที่หนักประมาณ 4.1 - 5.5 กิโลกรัม หน้าตาเป็นแบบนี้ค่ะ



























น่ารักมั้ยคะ น่ารักมั้ยค้า............... ^ ^

2.พันธุ์แคลิฟอร์เนีย ( Californian ) มีสีขาวเกือบทั้งตัวเหมือนกัน ยกเว้นที่แถวๆจมูก เท้า หาง และหูที่มีสีดำ ตัวกลมหนา ให้ลูกดก เลี้ยงลูกเก่ง โตเต็มที่หนักประมาณ 3.5 - 5.0 กิโลกรัม มีหน้าตาแบบนี้


























3.พันธุ์แองโกร่า ( Angora ) ขนฟูยาว นิยมเลี้ยงทางภาคเหนือ (ก็แน่ล่ะสิ ขนยาวขนาดนี้ถ้ามาเลี้ยงในที่ร้อนๆ พี่กระต่ายก็ร้อนตับแลบกันพอดี) มีหลายสี ตั้งแต่สี ขาว นำตาล เทา ฯ โตเต็มที่หนักประมาณ 2.4 - 3.8 กิโลกรัม

































4. พันธุ์พื้นเมือง มีหลายสีด้วยกัน ข้อดีของพันธุ์นี้ก็คือ ทนต่อสภาพแวดล้อมได้ดี แต่พันธุ์พื้นเมืองแท้ในปัจจุบันหาได้ยาก เพราะมีการผสมข้ามพันธุ์ ตัวโตเต็มที่หนักประมาณ 2.0 - 3.0 กิโลกรัม




เป็นไง หน้าตาน่ารักมากเลยใช่มั้ยล่ะ ชักจะชอบขึ้นมาแล้วล่ะสิ เราชอบกระต่ายมากเลย มันขาวๆ ฟูๆ นิ่มๆ โดดไปโดดมา ดึ๋งๆน่ารักดี เราเคยเลี้ยงกระต่ายด้วยนะ คู่แรกในชีวิตชื่อนุกนิกกับกุ๊กกิ๊ก มันน่ารักแสนรู้มาก เลี้ยงตั้งแต่มันตัวเล็กกว่ากำมือเราอีก จนมันโต มันจำชื่อได้ด้วยนะ อย่างนุกนิก ถ้าเราเรียกชื่อมันก็จะหันมามองหรือหยุดทำกิจกรรมที่มันกำลังทำอยู่ หลังจากนั้นก็ขึ้นกับความพอใจของมัน ถ้ามันอยากมาหา มันก็จะมา ถ้าวันไหนมันงอนเรา มันก็จะทำเมินอ่ะ น่าเสียดายที่เวลาอันแสนสุขมันช่างสั้น หมาข้างบ้านมาพรากให้เรากับนุกนิกต้องจากกันทั้งที่ยังไม่ทันตั้งตัว เสียใจจนบอกไม่ถูกเลยแหละ คิดว่าชาตินี้จะไม่เลี้ยงอะไรอีกแล้ว จะได้ไม่ต้องเสียใจอีก เว้นช่วงไประยะนึงแล้วพอวันเกิดตอนอายุ 17 เพื่อนสนิทก็ซื้อให้คู่นึง ชื่อแฮปปี้กับแต๊งกิ้ว (ชื่อเพราะใช่มั้ยล่ะ) เราตั้งใจเลี้ยงกว่าเดิมมาก ไม่ยอมให้ประวัติศาสตร์ซำรอยเด็ดขาด ถึงขนาดอ้อนพ่อให้ทำกรงใหญ่มากๆๆๆๆๆๆให้ด้วย พ่อเราทนลุกอ้อนไม่ไหวก็ทำให้ ใช้เวลาเป็นอาทิตย์เลยล่ะ แล้วทั้งสองตัวก็ได้ใช้ชีวิตในบ้านหลังใหญ่อย่างมีความสุข แต่แล้ว........หมาบ้านยายก็มาพรากมันไปจากเราอีก........................................ไม่รู้จะบรรยายยังไงเลย


ทุกวันนี้เลยถูกพ่อสั่งห้ามไม่ให้เลี้ยงอะไรแล้ว และเราก็เป็นโรคเกลียดหมาตัวใหญ่ๆเข้ากระดูกดำเลยแหละ แต่เราก็ยังรักกระต่ายอยู่ดี (รักคนหน้าเหมือนกระต่ายด้วย ฟันเหยินๆโตๆ น่ารักจะตาย เช่นน้องชายเราเป็นต้น อย่าคิดมาก ^ ^ )




สำหรับเพื่อนๆที่ต้องการเลี้ยงกระต่าย เราก็มีเกร็ดความรู้เล็กๆน้อยๆมาฝากนะมา เริ่มกันที่การเลือกซื้กระต่ายเลยดีกว่า

1. เลือกพันธุ์ให้ตรงตามวัตถุประสงค์ของการเลี้ยง เช่นถ้าต้องการเลี้ยงกระต่ายเนื้อก็ควรเลืกพันธุ์นิวซีแลนด์ไวท์หรือแคลิฟอร์เนีย ถ้าต้องการเลี้ยงเพื่อเอาขนควรเลือกพันธุ์แองโกร่า (แต่เพื่อนๆคงไม่มีใครใจร้ายเลี้ยงเอาเนื้อกันหรอก ใช่มั้ย????) แต่ถ้าต้องการเลี้ยงไว้ดูเล่นควรเป็นกระต่ายที่สวยงาม เช่น พันธุ์เซเบิล ( Sable )
2. รูปร่างลักษณะของกระต่าย ถ้าเป็นพันธุ์แท้ต้องมีลักษณะตรงตามพันธุ์ ประมาณว่าอวัยวะครบ 32 อ่ะจ้า3. สุขภาพ กระต่ายจะต้องมีสุขภาพดี ท่าทางตื่นตัว ไม่หงอยเหงา หรือเซื่องซึม ไม่มีโรคของระบบทางเดินอาหาร ทางเดินหายใจ และโรคของผิวหนังรวมทั้งไร ขี้เรื้อนต่างๆ
4.ประวัติ ควรซื้อจากแหล่งที่มีประวัติการเลี้ยงดี กระต่ายเติบโตเร็วและไม่มีโรค อันนี้สำคัญนะ
5. อายุ ควรเป็นกระต่ายที่หย่านมแล้ว มีอายุเกิน 6 สัปดาห์ เพราะกระต่ายมีอายุน้อยกว่านี้จะอ่อนแอและมีความต้านทานโรคต่ำ

หลังจากเลือกซื้อได้แล้ว อย่าลืมว่าการขนย้ายก็ต้องทำด้วยความระมัดระวังนะ เพราะกระต่ายเป็นสัตว์ตกใจง่าย ควรเป็นช่วงเช้าหรือเย็นที่ไม่ร้อนมาก
พยายามอย่าให้ถูกแดดโดยตรง เพราะจะทำให้พี่ต่ายแกเครียดได้จ้า

อาหาร แบ่งเป็น 3 ประเภทดังนี้

1. อาหารหยาบ ( Roughage ) หมายถึง อาหารที่มีโภชนะย่อยได้ต่ำ มีเยื่อใยสูง ซึ่งหมายถึงอาหารที่กินเข้าไปแล้วเหลือกากขับถ่ายออกมาเป็นของเสียมาก ส่วนใหญ่ได้มาจากลำต้น และใบของพืชตระกูลหญ้า และพืชตระกูลถั่ว เช่น หญ้าเนเปียร์ หญ้าขน หญ้ากินนี กระถิน ถั่วเหลือง ถั่วลิสง ถั่วซีราโต ถั่วไกลซีน ถั่เทาสวิลสไลโล เป็นต้น หรืออาจจะใช้ต้นพืชผักชนิดต่างๆ เช่น ผักบุ้ง ผักโขม ผักกาด คะน้า กะหล่ำปลี แครอท ผักกาดหอม หัวผักกาด มันเทศ มันแกว ฯลฯ เลี้ยงกระต่ายก็ได้ อาหารหยาบประเภทใบพืช ผัก หญ้า ควรให้กินเต็มที่ กระต่ายชอบหญ้าสด ผักสด มากกว่าตากแห้ง แต่หญ้าแห้งก็อาจใช้ได้ แต่ควรเป็นหญ้าที่อยู่ในระยะยังอ่อน ตากแห้งสะอาดไม่มีรา ไม่สกปรก ไม่มียาฆ่าแมลง ควรหั่นเป็นท่อนๆได้ยาวพอควร

2. อาหารข้น ( Concentrate ) ถึงให้กินแต่พวกหย้าตามธรรมชาติกระต่ายยังอยู่ได้ก็จริง แต่หากเราต้องการให้มันเจริญเติบโต ให้ผลผลิตเร็ว ให้เนื้อมาก (คงไม่ใช่ประเด็นนี้) ให้ขยายพันธุ์มีลูกดก ได้ลูกปีละหลายตัว เราจะต้องเลี้ยงดูให้ดี โดยมีอาหารข้น ( Concentrates ) เพิ่มเสริมให้ด้วย อาหารข้นเป็นอาหารที่มีโภชนะย่อยได้สูง มีเยื่อใยต่ำ ย่อยง่าย ซึ่งแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่ม คือ
อาหารที่เป็นแหล่งพลังงาน คือ อาหารที่มีแป้ง และน้ำตาล ( คาร์โบไฮเดรต ) หรือไขมันสูง ได้แก่ รำ ปลายข้าว ข้าวโพด ข้าวฟ่าง มันเส้น และไขมันจากพืชหรือสัตว์

อาหารที่เป็นแหล่งโปรตีนแก่ นมผง ปลาป่น กากถั่วเหลือง กากถั่วลิสง และใบกระถินป่น พวกอาหารเสริมควรให้กินในตอนบ่าย กระต่ายที่ไม่ได้ให้อาหารข้นเสริมอย่างน้อยก็ควรมีแร่ธาตุให้บ้าง ส่วนประกอบก็มี เกลือ กระดูกป่น และเปลือกหอยบดอย่างละเท่าๆกัน ผสมให้เข้ากัน ตั้งให้กินตามใจชอบ อาหารป่นที่แห้งอาจผสมน้ำเล็กน้อยพอให้มันชื้นๆ จะได้กินได้สะดวกแล้วก็ไม่หกหรือว่าหล่นด้วย

3. อาหารสำเร็จรูป ( Complete feed ) เกิดจากการนำอาหารข้นและหยาบมารวมกันในอัตราส่วนที่เหมาะสม เป็นแบบผงๆ หรืออัดเม็ด ใช้เลี้ยงกระต่ายได้สะดวก กระต่ายที่เลี้ยงด้วยอาหารสำเร็จรูปเพียงอย่างเดียวในปริมาณที่เพียงพอจะสามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็ว แต่ในการเลี้ยงทั่วไปนิยมเสริมหญ้าสด เพราะให้กินแต่อาหารสำเร็จรูป...................มันเปลือง (555+) ควรให้หญ้าหลังจากที่กระต่ายกินอาหารสำเร็จรูปในปริมาณมากพอสมควร เพื่อให้กระต่ายได้รับสารอาหารที่จำเป็นอย่างเพียงพอ


วิชาการมามากเกินพอละ เราก็มีทิพเล้กๆน้อยๆเกี่ยวกับการจับกระต่ายให้ถูกวิธีมาฝากนะ

จับกระต่ายให้ถูกวิธี

กระต่ายเป็นสัตว์ที่ตกใจง่าย เพราะงั้นการจับกระต่ายจะต้องทำด้วยความนุ่มนวลและถูกวิธีเพื่อความปลอดภัยของตัวกระต่ายและตัวผู้จับด้วย ไม่ควรจับกระต่ายโดยการหิ้วหูเพราะจะทำให้กระต่ายเจ็บปวด (หลายคนอาจเข้าใจผิดว่าจับหูกระต่ายดีที่สุด เราเองก็ด้วย...T^T โทษทีนะ น้องกระต่าย เราผิดไปแล้ว...) และอาจเป็นสาเหตุทำให้กระต่ายหูตกได้ การจับกระต่ายที่ถูกวิธีเค้าทำกันแบบนี้
- ลูกกระต่าย ใช้มือที่ถนัดจับหนังบริเวณสะโพกให้มั่นคง แล้วยกขึ้นตรงๆ .......ใช้ศัพท์ทางการซะ
- กระต่ายขนาดกลาง ใช้มือขวา ( หรือมือที่ถนัด ) จับหนังเหนือไหล่ให้มั่นคง อาจรวบหูมาด้วยก็ได้ มือซ้ายรองใต้ก้นให้ด้านหน้าของกระต่ายหันออกนอกตัวผู้จับ
- กระต่ายใหญ่ ใช้มือขวาจับแบบวิธีที่ 2 แล้วยกอ้อมขั้นมาทางซ้ายมือใช้แขนซ้ายหนีบให้แนบชิดลำตัว โดยใช้มือซ้ายช่วยประคองก้น ให้หน้ากระต่ายหันไปทางหลังของผู้จับและขากระต่ายชี้ออกนอกตัวผู้จับ

ทำได้แบบนี้ก็ดีต่อทั้งคนจับทั้งน้องต่ายล่ะค้าบ

ช่วงเวลาต่างๆของกระต่าย
เพื่อนๆคงเคยได้ยินเรื่องนาฬิกาชีวิต ของคนมาแล้ว แต่เชื่อมั้ยว่า กระต่ายก็มีนาฬิกาชีวิตเหมือนกันนะ


* ช่วงเวลาของการเล่น กระต่ายที่ชอบเล่น จะสนุกกับการวิ่ง การกระโดดโลดเต้น และผลักของเล่นของมัน
* ช่วงเวลาของการนอน กระต่ายมักจะร่าเริงในช่วงเช้าและเย็น มันจะหลับในช่วงเวลากลางวัน และสิ่งที่มีความสุขสุด ๆ ของมันคือ การชอบงีบหลับในตอนบ่าย
* ช่วงเวลาการทำงาน กระต่ายเป็นสัตว์ที่ชอบการทำงานและมีความอุตสาหะ พูดง่ายๆว่าซนนั่นล่ะ มันพอใจกับการได้ทำงานในบ้านของเรา ถ้าเราไม่ให้งานมันทำ มันจะกลายเป็นกระต่ายที่ซึมเศร้า ซึ่งนั่นหมายความว่ามันจะทำลายบ้านของเรา อย่างเช่นกัดแทะไอ้นั่นไอ้นี่ไอ้โน่นได้


ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.vet.ku.ac.th/

วันพฤหัสบดีที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2552

รักคณะจังเลย

อาทิตย์หน้าก็งานกีฬามหาวิทยาลัยแล้ว

พี่ๆ เพื่อนๆได้หยุดกันถ้วนหน้า

ยกเว้นคณะเรา............

อืม.......... ช่างเป็นคณะที่ทุ่มเทเสียจริง

รักคณะจังเลย - -"

แต่ถึงไม่ได้หยุดแต่ก็แอบเชียร์อยู่นะ

ใครที่เป็นตัวแทนไปแข่งก็สู้ๆเข้านะค้าบ (โดยเฉพาะใครบางคนที่ไปแข่ง CW > <)

วันพฤหัสบดีที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2551

ใกล้ปีใหม่แล้ว

ใกล้ปีใหม่แล้ว

อย่าลืมทำความดีกันมากๆ
อะไรไม่ดีก็ลืมๆไปซะ
ทำสิ่งดีๆกันเถอะนะ

เพื่อโลกใบนี้ที่สวยงาม